Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม สาเหตุใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก ภาวะแทรกซ้อนจากโรคอีสุกอีใสและงูสวัด

พญ.จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 23 มิถุนายน 2022
รัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม (Ramsay hunt syndrome)

จากข่าวของ จัสติน บีเบอร์ ที่มีอาการของโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม (Ramsey Hunt syndrome) ซึ่งมีอาการใบหน้าซีกขวาอัมพาต ทำให้ต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ต ซึ่งโรคนี้เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคอีสุกอีใสและงูสวัดที่ต้องรีบรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อลดความเสี่ยงของกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงและการสูญเสียการได้ยิน

บทความนี้จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักโรคนี้กันค่ะ

New call-to-action

สารบัญ

  • โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม (Ramsey Hunt syndrome) หรือภาวะใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก คืออะไร?
  • โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม พบได้มากแค่ไหน?
  • ใครบ้างที่เสี่ยงกับโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม?
  • อาการของโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม
  • โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม ติดต่อได้หรือไม่?
  • การรักษาโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม
  • การป้องกันโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม
  • สรุป

โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม (Ramsey Hunt syndrome) หรือภาวะใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก คืออะไร?

โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม (Ramsey Hunt syndrome) หรือภาวะใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 (ที่เลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้า) จากเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Herpes zoster ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกับโรคอีสุกอีใสและงูสวัด 

โดยเมื่อเราหายจากโรคอีสุกอีใส เชื้อไวรัสจะแฝงอยู่ในปมประสาท เมื่อภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง จะทำให้เชื้อไวรัสแบ่งตัวและก่อให้เกิดการอักเสบตามแนวเส้นประสาท ซึ่งก่อให้เกิดอาการได้ตั้งแต่เป็นงูสวัดที่ลำตัว ซึ่งจะมีอาการปวดแสบร้อนและตุ่มน้ำตามแนวเส้นประสาท หรือ หากเชื้อไวรัสไปทำให้เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบซึ่งเป็นเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าก็จะทำให้เกิดโรค โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรมทำให้มีอาการอัมพาตของใบหน้าครึ่งซีก

ภาวะใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก

> กลับสู่สารบัญ

โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม พบได้มากแค่ไหน?

โดยทั่วไปอุบัติการณ์ของโรคพบได้น้อยมาก ประมาณ 5-10 รายในประชากร 100,000 คน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับงูสวัดที่พบได้ประมาณ 4 รายในประชากร 1,000 คน แม้ว่าจะพบได้ไม่มาก แต่หากเป็นแล้วจะมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง และหูหนวกได้ ดังนั้นจึงเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

> กลับสู่สารบัญ

ใครบ้างที่เสี่ยงกับโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม?

  • ผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน
  • ผู้สูงอายุ โดยความเสี่ยงจะมากขึ้นในผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วย HIV หรือผู้ที่มีภาวะเครียด พักผ่อนน้อย

> กลับสู่สารบัญ

อาการของของโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม

อาการหลักของโรคนี้ ได้แก่ อัมพาตกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีก ปวดหู มีตุ่มน้ำในรูหูและใบหู 

โดยเริ่มต้นจะมีอาการนำประมาณ 1-3 วัน ได้แก่

  • ปวดบริเวณใบหน้า 
  • มีไข้ อ่อนเพลีย 

จากนั้นจะมีอาการอัมพาตใบหน้าครึ่งซีกตามมา ได้แก่ 

  • หนังตาตก 
  • หลับตาไม่สนิท 
  • ยักคิ้วไม่ได้ 
  • ปากเบี้ยว มุมปากตก  
  • มีตุ่มน้ำขึ้นในรูหูและใบหู ปวดหู 
  • อาจมีอาการทางหู เช่น อาจได้ยินลดลง มีเสียงดังในหู หรืออาการบ้านหมุน
New call-to-action
อาการของของโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม

> กลับสู่สารบัญ

โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม ติดต่อได้หรือไม่?

โรคนี้สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสตุ่มน้ำของผู้ป่วย โดยจะทำให้เป็นโรคอีสุกอีใสในผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันซึ่งได้แก่ ผู้ที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน หรือผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนอีสุกอีใส

> กลับสู่สารบัญ

การรักษาโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม

ส่วนใหญ่การอักเสบจะหายได้เอง โดยตุ่มน้ำจะเริ่มตกสะเก็ดและหลุดลอกออกไปภายใน 7 วัน แต่อาการอัมพาตของกล้ามเนื้อใบหน้าอาจคงอยู่ถาวรได้ถึง 30-50% ของผู้ป่วย ขึ้นกับความเร็วในการเริ่มยาต้านไวรัสหลังมีอาการ

สามารถรักษาได้โดยใช้ยาต้านไวรัส เช่น Acyclovir, Valacyclovir โดยควรให้ยาภายใน 3 วันหลังเริ่มมีอาการ ร่วมกับการให้สเตียรอยด์ หากเริ่มยาภายใน 3 วันจะมีโอกาสหายเป็นปกติได้ประมาณ 70% แต่หากเริ่มภายใน 4-7 วันจะหายเป็นปกติได้ประมาณ 50% 

อาการอัมพาตของกล้ามเนื้อใบหน้าอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนจึงจะดีขึ้น ส่วนใหญ่จะหายภายใน 1 ปี บางรายอาจมีอาการปวดบริเวณใบหน้าหลงเหลืออยู่ (post herpetic neuralgia) ซึ่งพบมากในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

> กลับสู่สารบัญ

การป้องกันโรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม

เนื่องจากทุกคนที่เคยเป็นอีสุกอีใสมีโอกาสเกิดโรคนี้ได้ ดังนั้นสำหรับผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใส การป้องกันโรคนี้จึงควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และสำหรับคนที่ยังไม่เคยเป็นอีสุกอีใส ควรได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคนี้

คำแนะนำสำหรับการฉีดวัคซีนอีสุกอีใส

  1. ในผู้ที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน แนะนำให้ฉีดวัคซีนอีสุกอีใส (chickenpox) เพื่อป้องกันการติดเชื้อ herpes zoster ตามธรรมชาติซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้ออีสุกอีใสได้ 90-100% ซึ่งจะลดโอกาสที่จะเกิดงูสวัดตามมา
  2. ผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป อาจฉีดวัคซีนงูสวัด (varicella zoster) โดยมีประสิทธิภาพในการป้องกันงูสวัดประมาณ 50%

> กลับสู่สารบัญ

สรุป

โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม หรือใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เป็นโรคหนึ่งที่เป็นภาวะแทรกซ้อนของการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใสและงูสวัด โดยเชื้อไวรัสชนิดนี้ที่ให้เกิดการอักเสบของเส้นประสาทไขสันหลังคู่ที่ 7 ซึ่งเลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดอาการของใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก หรือทำให้เกิดอาการปวดหูหรือได้ยินเสียงลดลงได้ แม้ว่าจะพบได้ไม่บ่อย แต่หากเป็นโรคนี้แล้วต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงถาวรหรือหูหนวกได้

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

New call-to-action

> กลับสู่สารบัญ

บทความล่าสุด

ริดสีดวงทวาร

ริดสีดวงทวาร กับปัญหาหนักใจที่แก้ไขได้ รักษาเร็ว ฟื้นตัวไว

อ่านเพิ่มเติม
ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

พญ.จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์

พญ.จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

นัดหมาย

ประวัติเพิ่มเติม

 

ศูนย์แพทย์

ศูนย์ตรวจสุขภาพ_1-1

ศูนย์ตรวจสุขภาพ

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ริดสีดวงทวาร

ริดสีดวงทวาร กับปัญหาหนักใจที่แก้ไขได้ รักษาเร็ว ฟื้นตัวไว

ริดสีดวงทวาร มีสาเหตุมาจากการเพิ่มแรงดันในช่องทวารหนัก ทำให้เนื้อเยื่อหลอดเลือดในช่องทวารหนัก (Anal cushion) เกิดการขยายตัวเป็นหัวริดสีดวง

อ่านเพิ่มเติม
ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

ผ่าตัดไส้เลื่อน เป็นวิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะการผ่าแบบส่องกล้อง จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดการเป็นซ้ำได้

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา