Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

ตรวจแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์ เพื่อรู้ทันมะเร็งเต้านมก่อนจะลุกลาม

รศ.นพ.ประกาศิต จิรัปปภา

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 6 เมษายน 2022
ตรวจแมมโมแกรม

เป็นที่ทราบกันดีว่า การรักษามะเร็งเต้านมให้ได้ผลดีนั้นคือการตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะต้น ๆ จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมักไม่มีอาการเริ่มแรกแสดงให้เห็น หรืออาจเป็นอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้มองข้ามไป จนกระทั่งมะเร็งเริ่มอยู่ในระยะลุกลาม มีอาการเด่นชัด แล้วค่อยมาพบแพทย์ ซึ่งอาจสายเกินไป

การตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ด้วยแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์เต้านมเมื่อถึงเกณฑ์ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้อัตราการรอดชีวิตสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดเต้านมทิ้ง 

รศ.นพ.ประกาศิต จิรัปปภา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลพระรามเก้า ท่านมีความชำนาญในการดูแลและรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเป็นอย่างดี เนื่องจากดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมาเป็นจำนวนมากและหลายช่วงอายุ ได้มาให้คำแนะนำวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมกับเราในบทความนี้

New call-to-action

สารบัญ

  • ใครบ้างที่ควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
  • การตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรม (mammogram) และอัลตร้าซาวด์ (breast ultrasound)
  • การตรวจแมมโมแกรม (mammogram)
  • การตรวจด้วยวิธีอัลตร้าซาวด์เต้านม (breast ultrasound)
  • ตรวจแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์คู่กัน ไม่ให้มะเร็งเล็ดลอด
  • สรุป
มะเร็งเต้านม ระยะแรก

ใครบ้างที่ควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม

เกณฑ์ที่เหมาะสมที่ควรเข้ารับการตรวจคัดกรอง ดังนี้

เพศหญิง

ในแต่ละช่วงอายุควรปฏิบัติดังนี้

  • อายุ 20 ปีขึ้นไป ควรตรวจคลำเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ
  • อายุ 30-35 ปี ตรวจเป็นพื้นฐาน (base line)
  • อายุ 35-49 ปี ตรวจทุก 1-2 ปี
  • อายุ 50 ปีขึ้นไป ตรวจปีละ 1 ครั้ง

ผู้ที่มีปัจจัยอื่น ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงโอกาสเกิดมะเร็งเต้านม

ควรปรึกษาแพทย์และเข้ารับการตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปี อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อปี 
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.praram9.com/breast-cancer-staging/ 

แต่หากพบความผิดปกติ เช่น คลำพบก้อนที่เต้านม หรือเต้านมมีรูปร่างผิดปกติเปลี่ยนไปจากเดิม กรณีนี้ต้องเข้าพบแพทย์ทันที

ใครควรตรวจมะเร็งเต้านม

> กลับสู่สารบัญ

การตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรม (mammogram) และอัลตร้าซาวด์ (breast ultrasound)

เนื่องจากมะเร็งเต้านมในระยะแรกไม่มีอาการ ดังนั้นการคัดกรองด้วยเครื่องดิจิทัลแมมโมแกรม (Digital Mammogram) และอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) เข้ามาช่วย จะทำให้สามารถพบความผิดปกติในระยะแรกได้ โดยทั้ง 2 เทคนิคต่างล้วนมีความสำคัญต่อการตรวจพบมะเร็งเต้านม

> กลับสู่สารบัญ

การตรวจแมมโมแกรม (mammogram)

การตรวจแมมโมแกรม (mammogram) คือ เทคโนโลยีการตรวจทางรังสีชนิดพิเศษ คล้ายกับการตรวจเอกซเรย์ แต่ใช้ปริมาณรังสีน้อยกว่าเครื่องเอกซเรย์ทั่วไป 30-60% โดยแพทย์จะใช้เครื่องแมมโมแกรม ซึ่งเป็นเครื่องเอกซเรย์แบบพิเศษในการตรวจ เทคนิคนี้มีประสิทธิภาพในการตรวจหามะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เนื่องจากภาพที่ได้จากการตรวจมีความละเอียดสูง สามารถเห็นความผิดปกติได้ เช่น จุดหินปูนหรือเนื้อเยื่อที่ผิดปกติขนาดเล็ก (microcalcification) หรือก้อนที่มีลักษณะแข็ง (solidmass) ทำให้สามารถระบุตำแหน่งและค้นหาความผิดปกติของเต้านมได้อย่างถูกต้อง แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น

ตรวจมะเร็งได้ มีความปลอดภัย ไร้รังสีตกค้าง

เทคโนโลยีแมมโมแกรมทำให้แพทย์สามารถตรวจสอบเนื้องอกขนาดเล็กได้ดีขึ้น ทำให้วางแผนการรักษาได้เหมาะสม และเพิ่มโอกาสหายขาดจากมะเร็งร้ายได้ นอกจากนี้ เครื่องแมมโมแกรมจะเป็นรังสีเอกซเรย์พลังงานต่ำ จึงไม่มีรังสีตกค้างในร่างกายหลังตรวจเสร็จ และไม่มีผลข้างเคียงกับร่างกาย

เตรียมตัวอย่างไร สำหรับการตรวจแมมโมแกรม

ผู้เข้ารับการตรวจควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบบ 2 ชิ้น บน-ล่าง เพื่อความสะดวก และสามารถกินอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ แต่ห้ามทาแป้ง โลชั่น โรลออน ฉีดสเปรย์ หรือใช้สารระงับกลิ่นกายทุกชนิด ในบริเวณเต้านมและรักแร้

การทำแมมโมแกรม จะทำการบีบเนื้อนมเข้าหากัน แล้วทำการถ่ายรูปจากด้านบน และด้านข้าง หากพบจุดที่น่าสงสัย อาจถ่ายรูปเพิ่มหรือขยายรูป เพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น ขณะตรวจอาจจะรู้สึกเจ็บได้ จึงแนะนำให้เข้ารับการตรวจในช่วงที่เต้านมตึงน้อยที่สุด โดยในระหว่างตรวจ หากรู้สึกเจ็บมากสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ เพื่อให้ลดแรงกดลง

นอกจากนี้ หากเคยตรวจแมมโมแกรมมาก่อน ควรนำผลตรวจเดิมมาด้วย และหากมาด้วยอาการผิดปกติของเต้านม ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ตรวจทราบทันที

> กลับสู่สารบัญ

การตรวจด้วยอัลตร้าซาวด์เต้านม (breast ultrasound)

การตรวจอัลตร้าซาวด์เต้านม (breast ultrasound) คือ การตรวจโดยการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงเข้าไปในเนื้อเต้านม โดยคลื่นเสียงจะไปกระทบกับส่วนต่าง ๆ จะสะท้อนกลับขึ้นมาที่เครื่องตรวจ ทำให้สามารถบอกความแตกต่างขององค์ประกอบเนื้อเยื่อได้ว่าเป็นเนื้อเยื่อเต้านมปกติ  เป็นถุงน้ำ หรือเป็นก้อนเนื้อ การตรวจนี้จะทำให้ได้ผลการตรวจที่แม่นยำขึ้นในผู้ป่วยที่มีเนื้อเต้านมหนาแน่น แต่จะมีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถตรวจพบหินปูนขนาดเล็กได้ ดังนั้นควรตรวจควบคู่กับแมมโมแกรม เพื่อความแม่นยำและถูกต้องในการค้นหามะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรก และนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพต่อไป

ใครควรตรวจอัลตร้าซาวด์บ้าง

เทคนิคนี้จะเหมาะกับคนอายุน้อยกว่า 25 ปี และเหมาะกับคนที่มีเต้านมหนาแน่นมาก แต่ผู้ที่มีอายุมากกว่านั้นก็สามารถตรวจด้วยวิธีนี้ได้ โดยตรวจร่วมกับการทำแมมโมแกรม

นอกจากนี้ อัลตร้าซาวด์ยังเหมาะกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ผู้หญิงในช่วงให้นมบุตร รวมถึงคนที่ผ่านการเสริมหน้าอกมา

เตรียมตัวอย่างไร สำหรับการตรวจอัลตร้าซาวด์

ผู้เข้ารับการตรวจสามารถกินอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ แต่ห้ามทาแป้ง โลชั่น โรลออน หรือฉีดสเปรย์ระงับกลิ่น ในบริเวณเต้านมและรักแร้ โดยทางโรงพยาบาลจะเตรียมเสื้อผ้าสำหรับเข้ารับการตรวจให้

สำหรับขั้นตอนการตรวจนั้น จะเหมือนกับการอัลตร้าซาวด์ที่อวัยวะส่วนอื่น โดยการใช้หัวตรวจ (Transducer) วางบนผิวหนัง และจะเห็นภาพฉายที่ปรากฏที่หน้าจอ ซึ่งแพทย์จะบันทึกภาพไว้เพื่อใช้วิเคราะห์ต่อไป

หากเคยเสริมหน้าอกมาแล้ว หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ ของเต้านม ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ตรวจทราบด้วย

New call-to-action

> กลับสู่สารบัญ

ตรวจแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์คู่กัน ไม่ให้มะเร็งเล็ดลอด

การตรวจแมมโมแกรมแม้ว่าจะมีความแม่นยำสูง แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ผู้ที่เนื้อเต้านมหนาแน่นมาก จะทำให้ความแม่นยำในการตรวจด้วยแมมโมแกรมลดลง หรืออาการบางอย่างของมะเร็ง ที่แมมโมแกรมเพียงอย่างเดียว ไม่อาจสรุปผลได้ หรือ ผู้ป่วยบางราย ที่มีผื่นบริเวณหัวนม หรือมีของเหลวผิดปกติซึมออกจากหัวนม ซึ่งอาจจะเป็นอาการของมะเร็งในระยะแรก แต่อาจไม่พบความผิดปกติเมื่อตรวจด้วยแมมโมแกรม และในบางกรณี ขณะตรวจแมมโมแกรมอาจหนีบไม่ถึงก้อนเนื้อที่ผิดปกติ และไม่สามารถดึงเต้านมให้เข้ามาอยู่ในฟิล์มได้ เนื่องจากก้อนเนื้อบางตำแหน่งอยู่ด้านในมาก ๆ หรืออยู่บริเวณขอบของฐานเต้านมมาก ๆ ดังนั้น แพทย์จึงแนะนำให้ ตรวจแมมโมแกรมร่วมกับการอัลตร้าซาวด์เต้านม และร่วมกับการตรวจร่างกายโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อความแม่นยำและถูกต้องที่มากยิ่งขึ้น

แมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์เต้านม

> กลับสู่สารบัญ

สรุป

ขึ้นชื่อว่า “มะเร็ง” แล้ว ถ้าตรวจพบตั้งแต่เริ่มแรก โอกาสที่จะรักษาให้หายนั้นมีมาก แต่ถ้าปล่อยไว้จนกระทั่งเป็นมากแล้ว โอกาสรักษาให้หายก็จะมีน้อยลง จึงควรมาตรวจหาให้พบมะเร็งร้ายเสียก่อน โดยปฏิบัติตามขั้นตอนที่แนะนำไว้แล้วในบทความข้างต้น

ทั้งนี้ การตรวจพบเร็วไม่เพียงส่งผลดีต่อการรักษา แต่ยังช่วยให้เรามีทางเลือกในการรักษาที่หลากหลายขึ้น เพื่อตัวเราเองจะได้มีความสุขกับสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีไปนาน ๆ

หากสนใจโปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม สามารถทำนัดหมายหรือศึกษาแพ็คเกจที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เต้านม โรงพยาบาลพระรามเก้า

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

New call-to-action

> กลับสู่สารบัญ

บทความล่าสุด

ริดสีดวงทวาร

ริดสีดวงทวาร กับปัญหาหนักใจที่แก้ไขได้ รักษาเร็ว ฟื้นตัวไว

อ่านเพิ่มเติม
ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

รศ.นพ.ประกาศิต จิรัปปภา

รศ.นพ.ประกาศิต จิรัปปภา

ศูนย์เต้านม

นัดหมาย

ประวัติเพิ่มเติม

 

ศูนย์แพทย์

ศูนย์เต้านม_1-1

ศูนย์เต้านม

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ริดสีดวงทวาร

ริดสีดวงทวาร กับปัญหาหนักใจที่แก้ไขได้ รักษาเร็ว ฟื้นตัวไว

ริดสีดวงทวาร มีสาเหตุมาจากการเพิ่มแรงดันในช่องทวารหนัก ทำให้เนื้อเยื่อหลอดเลือดในช่องทวารหนัก (Anal cushion) เกิดการขยายตัวเป็นหัวริดสีดวง

อ่านเพิ่มเติม
ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

ผ่าตัดไส้เลื่อน เป็นวิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะการผ่าแบบส่องกล้อง จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดการเป็นซ้ำได้

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา