Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

รู้จัก ASD คืออะไร? ผนังหัวใจรั่วอาการเป็นแบบไหน รักษายังไงดี

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 24 มีนาคม 2025
ASD

ASD หรือภาวะผนังหัวใจห้องบนรั่ว เป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของผนังกั้นระหว่างห้องหัวใจ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ ซึ่ง ASD คือโรคที่เป็นตั้งแต่กำเนิด บางรายอาจไม่มีอาการแสดงให้เห็นชัดเจน แต่หากคุณปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพหัวใจในระยะยาวจนอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้น เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะนี้ให้มากขึ้นว่าอันตรายแค่ไหน และแนวทางการรักษามีอะไรบ้าง

Key Takeaways

  • โรค ASD หรือผนังกั้นหัวใจรั่ว เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่เกิดจากการมีรูรั่วระหว่างหัวใจห้องบนซ้ายและขวา ส่งผลให้เลือดไหลผิดทิศทาง และหัวใจต้องทำงานหนักขึ้น
  • สัญญาณเตือนที่สำคัญของโรค ASD ได้แก่ อาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น หายใจถี่ ติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อยครั้ง และอาจมีอาการขาบวมหรือผิวคล้ำบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายในรายที่อาการรุนแรง
  • การวินิจฉัยโรค ASD ทำได้หลายวิธี โดยวิธีที่นิยมคือการตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (Echocardiogram) ซึ่งช่วยให้แพทย์เห็นตำแหน่งและขนาดของรูรั่วได้ชัดเจน
  • การรักษาโรค ASD มีหลายวิธีแต่มักจะนิยมการสวนหัวใจเพื่อปิดรูรั่วขนาดเล็ก และการผ่าตัดแบบเปิดในกรณีที่รูรั่วมีขนาดใหญ่

สารบัญบทความ

  • ผนังกั้นหัวใจรั่วหรือ ASD คืออะไร? ไขข้อสงสัยก่อนหาวิธีรักษา
  • ASD อาการเป็นอย่างไรบ้าง? เช็กสัญญาณเตือนก่อนสาย!
  • ASD ตรวจวินิจฉัยอย่างไร มีตัวเลือกแบบไหนบ้าง?
  • ASD สามารถรักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
  • ASD หรือโรคผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม?
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ASD (ผนังหัวใจรั่ว)

ผนังกั้นหัวใจรั่วหรือ ASD คืออะไร? ไขข้อสงสัยก่อนหาวิธีรักษา

ภาวะผนังหัวใจห้องบนรั่ว หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า Atrial Septal Defect (ASD) เป็นประเภทหนึ่งของโรคหัวใจพิการซึ่งเกิดขึ้นแต่กำเนิด พบได้ค่อนข้างบ่อย โดยสาเหตุของการเกิดโรค ASD คือ การมีรอยรั่วที่ผนังกั้นระหว่างหัวใจห้องบน ทำให้การไหลเวียนเลือดภายในหัวใจเกิดความผิดปกติไปจากที่ควรจะเป็น

ความผิดปกติดังกล่าวส่งผลให้เลือดที่มีออกซิเจน (เลือดแดง) จากหัวใจห้องบนซ้ายไหลผ่านรูรั่วไปยังหัวใจห้องบนขวา (เลือดดำ) แทนที่จะไหลเข้าสู่ห้องล่างซ้ายตามปกติ ส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนักยิ่งขึ้นเพื่อที่จะสามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเพียงพอ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หรือโรคหัวใจชนิดอื่น ๆ ได้

ASD อาการเป็นอย่างไรบ้าง? เช็กสัญญาณเตือนก่อนสาย!

ASD อาการใจสั่น

โรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วหรือ ASD มักแสดงอาการที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน บางรายอาจไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงแรก แต่เมื่อรูรั่วมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเมื่อเวลาผ่านไปโดยไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาการต่าง ๆ จะเริ่มปรากฏให้เห็นชัดมากขึ้น โดยสัญญาณเตือนที่สำคัญของโรค ASD คือ

  • เหนื่อยง่ายผิดปกติ โดยเฉพาะเมื่อออกแรงหรือทำกิจกรรมที่ใช้พลังงาน แม้จะเป็นกิจกรรมเบา ๆ เช่น เดินขึ้นบันได หรือทำงานบ้านทั่วไป ผู้ป่วยอาจรู้สึกเหนื่อยหรือหมดแรงมากกว่าคนทั่วไป
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือใจสั่น เป็นอาการที่พบได้บ่อย เนื่องจากหัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชยเลือดที่รั่วออกไป ผู้ป่วยอาจรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่เร็วหรือไม่สม่ำเสมอ
  • หายใจถี่หรือหอบ โดยเฉพาะเมื่อนอนราบ ผู้ป่วยบางรายอาจต้องนอนหนุนหมอนสูงเพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น หรือมีอาการหอบเหนื่อยกลางดึก
  • มักติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากการไหลเวียนเลือดที่ผิดปกติส่งผลต่อปอด ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะปอดบวมหรือหลอดลมอักเสบ
  • ขาบวม โดยเฉพาะหลังยืนนาน ๆ เป็นผลจากการที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ริมฝีปากหรือผิวหนังเขียวคล้ำ (Cyanosis) พบได้ในรายที่มีอาการรุนแรง เกิดจากเลือดที่มีออกซิเจนต่ำ (เลือดดำ) ไหลย้อนเข้ามาผสมกับเลือดแดงในปริมาณมาก

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการคล้ายคลึงกับผู้ป่วยภาวะผนังหัวใจรั่วหลายอย่างร่วมกัน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว การวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ภาวะหัวใจโต หรือความดันในปอดสูง

ASD ตรวจวินิจฉัยอย่างไร มีตัวเลือกแบบไหนบ้าง?

ผนังกั้นหัวใจรั่ว

การวินิจฉัยโรคผนังกั้นหัวใจรั่ว (ASD) อย่างแม่นยำเป็นกุญแจสำคัญสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันนั้นมีวิธีการตรวจวินิจฉัยที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อยืนยันว่าหัวใจมีรูรั่วอยู่จริง ทั้งยังสามารถประเมินขนาดของรูรั่ว เพื่อประกอบการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายอีกด้วย 

การตรวจวินิจฉัยโรค ASD จะเริ่มต้นจากการซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้น โดยแพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับอาการ ประวัติครอบครัว และตรวจฟังเสียงหัวใจ ซึ่งในผู้ป่วย ASD มักได้ยินเสียงฟู่ (Heart murmur) ที่เป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้

เมื่อแพทย์ยืนยันแล้วว่ามีความเสี่ยงต่อโรค ASD ก็จะนำไปสู่การตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น

  • การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจความถี่สูง (Echocardiogram) เป็นการตรวจที่สำคัญที่สุดและใช้บ่อยที่สุด เพราะสามารถแสดงภาพการทำงานของหัวใจแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์เห็นตำแหน่งและขนาดของรูรั่วได้ชัดเจน รวมถึงประเมินการไหลเวียนของเลือดผ่านรูรั่วได้
  • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram หรือ EKG) ช่วยประเมินจังหวะการเต้นของหัวใจและการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการใจสั่นหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • การเอกซเรย์ทรวงอก (Chest X-ray) แสดงให้เห็นขนาดและรูปร่างของหัวใจ รวมถึงการไหลเวียนเลือดในปอด ซึ่งอาจเห็นความผิดปกติได้ชัดเจนกว่า ในผู้ป่วย ASD
  • การตรวจเอ็มอาร์ไอหัวใจ (Cardiac MRI) ให้ภาพที่ละเอียดของโครงสร้างหัวใจและการไหลเวียนของเลือด เหมาะสำหรับการวางแผนการรักษาในกรณีที่มีความซับซ้อน

ASD สามารถรักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

ASD รักษา

โรคผนังกั้นหัวใจรั่วรักษาได้หลากหลายวิธี แพทย์จะพิจารณาเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอายุ ขนาดของรูรั่ว ตำแหน่งของรูรั่ว และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ยกตัวอย่างวิธีรักษา ASD ที่ใช้กันบ่อย ๆ ได้แก่

  1. การดูแลรักษาแบบประคับประคอง เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีรูรั่วขนาดเล็ก (น้อยกว่า 5 มิลลิเมตร) แพทย์จะนัดติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอและอาจให้ยาเพื่อควบคุมอาการบางอย่าง เช่น ยาควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ โดยผู้ป่วยจะต้องมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของรูรั่ว
  2. การรักษาด้วยการสวนหัวใจแบบไม่ต้องผ่าตัด (Transcatheter ASD Closure) เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าอก โดยแพทย์จะใช้อุปกรณ์พิเศษที่มีลักษณะเป็นท่อยาวขนาดเท่า ๆ เส้นสปาเกตตี้ สอดใส่ผ่านหลอดเลือดเพื่อปิดรูรั่ว ใช้เวลาในการรักษาและพักฟื้นน้อยกว่าการผ่าตัด (สามารถกลับบ้านได้ภายใน 1-2 วัน) เหมาะสำหรับรูรั่วที่มีขนาดกลางและมีตำแหน่งที่ไม่ซับซ้อนมากนัก
  3. การผ่าตัดหัวใจโดยตรง เหมาะสำหรับรูรั่วขนาดใหญ่หรือมีตำแหน่งที่ไม่เหมาะกับการสวนหัวใจ โดยศัลยแพทย์จะผ่าตัดเปิดหน้าอกเพื่อเข้าถึงตัวหัวใจโดยตรง จากนั้นจึงใช้วัสดุพิเศษหรือเนื้อเยื่อของผู้ป่วยเองในการปิดรูรั่ว การรักษาด้วยวิธีนี้จะต้องใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลนานราว 5-7 วัน และต้องรับการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย

ASD หรือโรคผนังหัวใจรั่ว อันตรายไหม?

โรคผนังกั้นหัวใจรั่ว หรือ ASD แม้จะเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่พบได้บ่อย แต่ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบัน ทำให้มีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาในเวลาที่เหมาะสม

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีความกังวลเกี่ยวกับโรคผนังกั้นหัวใจรั่ว สามารถปรึกษาและรับการตรวจรักษาได้ที่สถาบันหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพระราม 9 เรามีทีมแพทย์และเครื่องมือที่ทันสมัยพร้อมให้การดูแลรักษาอย่างครบวงจร เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด

ติดต่อโรงพยาบาลพระราม 9 ได้ที่

  • Facebook: Praram 9 hospital  
  • Line @Praram9Hospital
  • โทร. 1270

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ASD (ผนังหัวใจรั่ว)

โรค ASD หายเองได้ไหม จำเป็นต้องผ่าตัดหรือเปล่า?

โรค ASD สามารถหายเองได้ โดยมีโอกาสกว่า 80% ที่รูรั่วจะปิดตัวได้เองในช่วงปีแรกหลังเกิดหรือราว ๆ 18 เดือน โดยเฉพาะในรูรั่วขนาดเล็ก (น้อยกว่า 3-4 มิลลิเมตร) อย่างไรก็ตาม รูรั่วที่มีขนาดใหญ่กว่านี้มักไม่สามารถปิดได้เองและจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์

ASD เป็นโรคทางพันธุกรรมหรือไม่?

ASD มีความเชื่อมโยงกับพันธุกรรมบางส่วน แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกหลานของผู้ที่ป่วยเป็น ASD จะต้องเป็นโรคนี้เสมอไป อย่างไรก็ตาม หากในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อการติดตามการตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม

ผู้ป่วย ASD สามารถออกกำลังกายได้หรือไม่?

ผู้ป่วยโรคผนังกั้นหัวใจรั่วสามารถออกกำลังกายได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินข้อจำกัดและความเหมาะสมของประเภทการออกกำลังกาย โดยทั่วไปแนะนำการออกกำลังกายแบบเบาถึงปานกลาง และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หักโหมหรือต้องใช้แรงมากเพื่อความปลอดภัย

References 

Kathy Meyer, RN. (2024, April). Atrial Septal Defects (ASD). Cincinnati Children’s. https://www.cincinnatichildrens.org/health/a/asd  

Lee B. (2023, April). Atrial Septal Defects (ASD). MSD Manual. https://www.msdmanuals.com/professional/pediatrics/congenital-cardiovascular-anomalies/atrial-septal-defect-asd#Treatment_v1096211   

Mayo Clinic Staff. (2024, January 23). Atrial Septal Defects (ASD). Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/atrial-septal-defect/diagnosis-treatment/drc-20369720 

บทความล่าสุด

ริดสีดวงทวาร

ริดสีดวงทวาร กับปัญหาหนักใจที่แก้ไขได้ รักษาเร็ว ฟื้นตัวไว

อ่านเพิ่มเติม
ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

 

ศูนย์แพทย์

สถาบันหัวใจและหลอดเลือด_1-1

สถาบันหัวใจและหลอดเลือดพระรามเก้า

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ริดสีดวงทวาร

ริดสีดวงทวาร กับปัญหาหนักใจที่แก้ไขได้ รักษาเร็ว ฟื้นตัวไว

ริดสีดวงทวาร มีสาเหตุมาจากการเพิ่มแรงดันในช่องทวารหนัก ทำให้เนื้อเยื่อหลอดเลือดในช่องทวารหนัก (Anal cushion) เกิดการขยายตัวเป็นหัวริดสีดวง

อ่านเพิ่มเติม
ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

ผ่าตัดไส้เลื่อน เป็นวิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะการผ่าแบบส่องกล้อง จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดการเป็นซ้ำได้

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา