Skip to content
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • TH
    • EN
    • CN
    • AR
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา
Menu
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา

น้ำประปาเค็ม อาหารเค็ม ทำร้ายสุขภาพ

บทความ

โรงพยาบาลพระรามเก้า

  • วันที่โพสต์ 7 มกราคม 2020

จากสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในปีนี้ มีความรุนแรงสูงสุดในรอบ 50 ปี ทำให้น้ำประปาในช่วงนี้กร่อยถึงเค็ม

ซึ่งใครที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต หัวใจ เบาหวาน ความดัน และในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำประปาไปชั่วคราวก่อน เนื่องจากความเค็มในรูปคลอไรด์เกิน 250 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือโซเดียมเกิน 200 มิลลิกรัมต่อลิตร มีปริมาณสูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)

แต่ก่อนที่เราจะตกใจ กังวลเรื่องความเค็มของน้ำประปา ที่มีผลต่อการใช้ชีวิต รู้หรือไม่ว่าคนไทยกินเค็มสูงกว่าที่กำหนดอยู่แล้วถึง 2 เท่า เราบริโภคโซเดียมเฉลี่ยประมาณ 4,000 มิลลิกรัม/วัน เลยทีเดียว แล้วสาเหตุมาจากไหนล่ะ ก็มาจากพฤติกรรมการทานอาหารของคนยุคใหม่ที่มักเน้นรสชาติถูกปากเมนูที่ถูกใจ และอาหารบ้านเราส่วนใหญ่มีน้ำจิ้มหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำจิ้มแจ๋ว น้ำจิ๋มสุกี้หมูกระทะ น้ำจิ้มซีฟู้ด แม้กระทั้งน้ำปลาพริก ที่เวลาสั่งอาหารราดข้าวมา บางคนไม่ได้สนใจรสชาติอาหารที่มาว่าเป็นอย่างไร ขอแค่ตักลงไปสักหน่อยทุกมื้อไป เติมแล้วปรุงอีก จนกลายเป็นความเคยชิน ซึ่งทุกอย่างล้วนแฝงไปด้วยโซเดียม ที่หากบริโภคในปริมาณที่เกินพอดี ก็มีผลเสียต่อสุขภาพ

การที่ร่างกายได้รับโซเดียมสูง ส่งผลกระทบหลายอย่าง โดยเฉพาะ ไต ที่ทำหน้าที่ขับโซเดียม ต้องทำงานหนัก จนเป็นสาเหตุของไตเสื่อม อีกทั้งยังมีผลเสียต่อสมดุลน้ำภายในร่างกาย เพราะโซเดียมไม่ถูกกำจัดออกไป ตัวก็จะบวม หน้าบวม ขาใหญ่ รวมทั้งความดันโลหิตก็จะสูงขึ้นด้วย นั่นคือเหตุผลที่คนไทยเป็นความดันสูง นอกจากนี้ โซเดียมยังส่งผลต่อค่าโพแทสเซียมลดต่ำลง คือถ้าโซเดียมเยอะเมื่อไหร่ ค่าโพแทสเซียมจะลดต่ำลง ซึ่งจะมีผลต่ออาการความดันสูง ระบบประสาท และระบบกล้ามเนื้อของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อหัวใจ เสี่ยงโรคกันไปอีกต่อหลายโรค

 ดังนั้นก่อนที่จะตื่นตกใจไปกับน้ำประปาที่เค็มในช่วงนี้ เราควรสำรวจเมนูอาหาร และพฤติกรรมการกินของเราทุกเมนูด้วยว่า แต่ละวันเรากินเค็มขนาดไหน เพราะโซเดียมเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่มักแฝงตัวมากับอาหารหลากหลายรูปแบบ การปรับพฤติกรรมและหลีกเลี่ยงอาหารที่แฝงไปด้วยโซเดียมเป็นหนึ่งวิธีการดูแลตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงน้ำประปาเค็ม กลุ่มผู้ป่วยโรคไต หัวใจ เบาหวาน ความดัน เด็ก และผู้สูงอายุ ควรควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำประปา ควรใช้น้ำดื่มบรรจุขวด ในส่วนคนปกติทั่วไป กรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า สามารถบริโภคได้ ความเค็มจากน้ำประปาอาจเพิ่มโซเดียมเข้าสู่ร่างกายต่อวันในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แนะนำควรลดปริมาณการปรุงแต่งอาหารที่มีความเค็มลง งดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น เกลือ น้ำปลา ซีอิ้ว ซอสปรุงรส ผงปรุงรส น้ำจิ้ม ขนมกรุบกรอบ อาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อผลดีต่อสุขภาพของเรา

บทความล่าสุด

ริดสีดวงทวาร

ริดสีดวงทวาร กับปัญหาหนักใจที่แก้ไขได้ รักษาเร็ว ฟื้นตัวไว

อ่านเพิ่มเติม
ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

อ่านเพิ่มเติม
ดูบทความทั้งหมด

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับ Praram 9 V

ปรึกษาแพทย์ได้ทุกที่ผ่านทางวิดีโอคอล (Telemedicine)

  • Praram 9 Hospital
  • @praram9hospital

แพทย์ผู้เขียนบทความ

 

ศูนย์แพทย์

1677919536144

สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต

เยี่ยมชม

ดูทั้งหมด

บทความอื่นๆ

ริดสีดวงทวาร

ริดสีดวงทวาร กับปัญหาหนักใจที่แก้ไขได้ รักษาเร็ว ฟื้นตัวไว

ริดสีดวงทวาร มีสาเหตุมาจากการเพิ่มแรงดันในช่องทวารหนัก ทำให้เนื้อเยื่อหลอดเลือดในช่องทวารหนัก (Anal cushion) เกิดการขยายตัวเป็นหัวริดสีดวง

อ่านเพิ่มเติม
ผ่าตัดไส้เลื่อน

ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

ผ่าตัดไส้เลื่อน เป็นวิธีรักษาไส้เลื่อนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะการผ่าแบบส่องกล้อง จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดการเป็นซ้ำได้

อ่านเพิ่มเติม
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ผู้หญิงควรรู้! เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่คืออะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง?

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือภาวะที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญนอกมดลูก เช่น รังไข่หรือท่อนำไข่ ทำให้เกิดการอักเสบและปวดท้องประจำเดือนรุนแรง

อ่านเพิ่มเติม
อ่านบทความทั้งหมด
Facebook-f Youtube Instagram Line
  • 1270
  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • นัดหมาย
  • บทความสุขภาพ
  • แพ็กเกจ
  • ข่าว และกิจกรรม รพ.
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไข

Copyright © 2025 All Rights Reserved | Praram 9 Hospital

  • เกี่ยวกับเรา
  • ศูนย์การแพทย์
  • ค้นหาแพทย์
  • ห้องพัก
  • Health Guru
    • บทความสุขภาพ
    • Doctor’s Health Insights
  • แพ็กเกจ
  • ติดต่อเรา